ผลการประเมินหมวดสิทธิแรงงานในปีนี้พบว่าธนาคารส่วนใหญ่ 7 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารออมสิน และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย มีคะแนนรวมที่ลดลงเนื่องจากเกณฑ์ประเมิน FFGI ฉบับปี 2023 มีหัวข้อการประเมินที่เพิ่มขึ้น โดยมีเพียง 2 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารเกียรตินาคินภัทรที่ได้คะแนนรวมเพิ่มขึ้น
ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย ได้คะแนนเต็มในเกณฑ์ข้อ 3 จากการประกาศนโยบายที่สอดคล้องกับสาระสำคัญหลักในอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นมารดา (Maternity Protection Convention) ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ครบทุกเงื่อนไข ดังนี้ การให้สิทธิพนักงานหญิงที่ลาคลอดได้รับค่าจ้างเต็มจำนวนในช่วงก่อนและหลังคลอดรวมกันสูงสุด 98 วัน โดยได้สิทธิในการกลับมาทำงานในตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งที่ได้รับค่าตอบแทนไม่น้อยกว่าเดิม และการจัดให้มีพื้นที่หรือสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับพนักงานที่เป็นคุณแม่สำหรับปั๊มน้ำนม ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกสิกรไทย ได้คะแนนบางส่วน เนื่องจากนโยบายที่ธนาคารประกาศครอบคลุมเนื้อหาเพียงบางเงื่อนไขจากสาระสำคัญหลักของอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นมารดา
ธนาคารเกียรตินาคินภัทรได้คะแนนในหมวดสิทธิแรงงานเป็นปีแรก โดยมีการประกาศนโยบายที่เกี่ยวกับการแจ้งเบาะแสการกระทำผิด โดยระบุช่องทางในการแจ้งข้อมูล ร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสของพนักงานรวมไปถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ซึ่งครอบคลุมในประเด็นการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน และการจ้างงานของพนักงาน กระบวนการตรวจสอบ กระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ได้รับจากการแจ้งเบาะแส อีกทั้งแสดงแผนผังกลไกการร้องเรียนผ่านช่องทางต่าง ๆ (ข้อ 4)
ธนาคารทหารไทยธนชาต เป็นธนาคารที่ได้คะแนนสูงสุดในหมวดนี้ โดยเป็นธนาคารเพียงแห่งเดียวที่มีนโยบายที่กำหนดให้ลูกค้าของธนาคารต้องจัดให้มีสภาพการทำงานที่เหมาะสม และปฏิบัติต่อพนักงาน รวมถึงพนักงานที่เป็นแรงงานต่างชาติและแรงงานนอกระบบอย่างเท่าเทียมกัน (ข้อ 14)