ในภาพรวม คะแนนเฉลี่ยในหมวดนี้ลดลงจากปีก่อน เนื่องจากมีการเพิ่มเกณฑ์การประเมินใหม่ขึ้นมา 1 ข้อได้แก่ การมีผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยให้สตรีและผู้ประกอบการสตรีเข้าถึงการเงินและบริการของธนาคารได้มากขึ้น (ข้อ 14) โดยมีธนาคารเพียง 3 แห่งได้รับคะแนนในหมวดนี้ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทยธนชาต และธนาคารกรุงศรีอยุธยา โดยได้คะแนนจากการมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินดังต่อไปนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์มีสินเชื่อธุรกิจรักษ์โลก ซึ่งเป็นสินเชื่อส่งเสริมความยั่งยืนซึ่งรวมถึงการส่งเสริมผู้ประกอบการที่เป็นผู้หญิง (ถือหุ้นมากกว่า50%) เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการและใช้ประกอบธุรกิจ
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีพันธบัตรที่คำนึงถึงผู้ประกอบการสตรีเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสตรีเข้าถึงการเงินและบริการของธนาคารได้มากขึ้น
- ธนาคารทหารไทยธนชาต กำหนดให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารได้ เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างเท่าเทียม
ในหมวดการขยายบริการทางการเงิน มีทั้งหมด 6 ข้อที่ทุกธนาคารได้คะแนน โดยหัวข้อที่ธนาคารทุกแห่งได้รับคะแนน ได้แก่
- สถาบันการเงินมีนโยบาย บริการ และผลิตภัณฑ์ที่พุ่งเป้าไปยังกลุ่มคนจนและคนชายขอบ หรือ MSME อย่างเฉพาะเจาะจง (ข้อ 1)
- สถาบันการเงินมีสาขาในเขตชนบท ไม่ใช่เฉพาะในเมือง (ข้อ 2)
- สถาบันการเงินมีบริการธนาคารทางมือถือ (mobile banking) และบริการไร้เงินสด (e-money) (ข้อ 3)
- สถาบันการเงินเผยแพร่เงื่อนไขของบริการทางการเงินในภาษาท้องถิ่น (ข้อ 7)
- สถาบันการเงินมีนโยบายปรับปรุงความรู้เรื่องทางการเงิน (financial literacy) ของลูกค้ากลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มชายขอบ กลุ่มเปราะบาง และ MSME (ข้อ 8)
- สถาบันการเงินมีบริการรับหรือโอนเงินในประเทศที่เหมาะสม สะดวก และลูกค้ารายย่อยมีกำลังซื้อ (ข้อ 12)
นอกจากนี้ ธนาคารออมสินและธนาคารกสิกรไทยเป็นเพียง 2 ธนาคารที่ได้รับคะแนนจากการมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย (ข้อ 13) เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อย