ผลการประเมินหมวดความเท่าเทียมทางเพศ

ผลการประเมินในปีนี้ ธนาคารส่วนใหญ่ได้คะแนนเทียบเท่ากับคะแนนในการประเมินปี พ.ศ. 2566 โดยมีธนาคารเพียง 4 แห่ง จาก 11 แห่ง ที่ได้คะแนนเพิ่มขึ้น ได้แก่ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารเกียรตินาคินภัทร

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยได้รับคะแนนเป็นปีแรกในเกณฑ์การประเมิน 2 ข้อ ได้แก่ ธนาคารประกาศนโยบายไม่ยอมรับความรุนแรงทางเพศทุกรูปแบบ (zero-tolerance policy) ในที่ทำงาน ซึ่งรวมการคุกคามทุกรูปแบบ อันได้แก่ การคุกคามทางวาจา ทางร่างกาย และทางเพศ (ข้อ 2) และ ธนาคารมีการจัดฝึกอบรมเรื่องอคติทางเพศและการเลือกปฏิบัติระหว่างเพศในสถานที่ทำงานให้แก่พนักงาน (ข้อ 3)

ธนาคารกสิกรไทย ได้คะแนนเพิ่มขึ้นจากการประกาศนโยบายสิทธิมนุษยชนและการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ ที่คาดหวังให้ลูกค้าธนาคารและธุรกิจที่ธนาคารจะเข้าไปลงทุนเคารพสิทธิมนุษยชนตามหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งมีในหลักการกล่าวว่า ควรนำหลักการไปปฏิบัติโดยไม่เลือกปฏิบัติ และคำนึงถึงความเสี่ยงที่แตกต่างกันที่ผู้หญิงและผู้ชายอาจเผชิญอย่างเหมาะสม กล่าวคือ ลูกค้าต้องมีนโยบายบรรเทาความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่อันเป็นผลมาจากเพศสภาพ (ข้อ 10)

ธนาคารทหารไทยธนชาต และธนาคารไทยพาณิชย์ ได้คะแนนในข้อ 14 โดยธนาคารทหารไทยธนชาตได้คะแนนจากการที่เป็นธนาคารเพียงแห่งเดียวที่มีนโยบายกำหนดให้ลูกค้าต้องมีการจ้างงานที่ต้องให้ค่าตอบแทนที่เท่าเทียมกันโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติทางเพศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าลูกค้าต้องมีการบริหารการจ่ายค่าตอบแทนที่เป็นธรรม จึงทำให้ได้คะแนนในข้อนี้บางส่วน ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ได้คะแนนจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมอีเควเตอร์ หรือ Equator Principles (EPs) Association โดย EPs เป็นกรอบการบริหารความเสี่ยงสำหรับสถาบันการเงินที่ได้ชี้แนะแนวทางในการ 'ระบุ ประเมิน และจัดการความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม' สำหรับสินเชื่อโครงการ ทั้งนี้ การเข้าร่วมดังกล่าว ส่งผลให้ธนาคารต้องปฏิบัติตามแนวปฏิบัติของบริษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) ในด้านมาตรฐานการดำเนินงานด้านความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม (Performance Standard - PS) ซึ่งระบุถึงการกำหนดแนวปฏิบัติของธนาคารต่อลูกค้าในประเด็น   การจ้างงานบนพื้นฐานของโอกาสที่เท่าเทียมกันและการปฏิบัติที่เป็นธรรม และการไม่เลือกปฏิบัติในด้านใดๆ ของความสัมพันธ์ในการจ้างงาน ซึ่งรวมถึงความเท่าเทียมและเป็นธรรมในค่าตอบแทนซึ่งรวมถึงค่าจ้างและสวัสดิการ

ธนาคารออมสิน เป็นธนาคารเพียงแห่งเดียวที่มีสัดส่วนผู้หญิงในตำแหน่งคณะกรรมการ และผู้บริหารระดับสูงที่สัดส่วนร้อยละ 40 และคณะกรรมการบริหารที่สัดส่วนร้อยละ 30 จึงทำให้ได้คะแนนใน ข้อ 6 และ 7 ในขณะที่ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารออมสิน และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย เคยได้คะแนนในปีก่อนจากการมีสัดส่วนผู้หญิงในตำแหน่งบริหารตามที่เกณฑ์กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม ในปีนี้พบว่าธนาคารเหล่านี้มีสัดส่วนผู้หญิงในตำแหน่งบริหารลดลงต่ำกว่าที่เกณฑ์กำหนด จึงไม่ได้คะแนนในปีนี้

ธนาคารกรุงศรีอยุธยาเป็นธนาคารเดียวที่มีการเปิดเผยสัดส่วนการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของ ได้แก่ สินเชื่อจากพันธบัตรเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการสตรี (Krungsri Women SME Bond) เทียบกับการสนับสนุนทางการเงินแก่ MSMEs ทั้งหมด (ข้อ 9)


 

หมวดความเท่าเทียมทางเพศประเมินตามเกณฑ์ประกอบด้วย 20 ข้อดังต่อไปนี้

หัวข้อต่อไปนี้ใช้ประเมินนโยบายระดับปฏิบัติการของสถาบันการเงิน

1. สถาบันการเงินมีนโยบายไม่ยอมรับการเลือกปฏิบัติทางเพศทุกรูปแบบ (zero-tolerance policy) ในกระบวนการจ้างงานและในการปฏิบัติงาน ที่ชัดเจนว่าคำนึงถึงความหลากหลายทางเพศ

2. สถาบันการเงินมีนโยบายไม่ยอมรับความรุนแรงทางเพศทุกรูปแบบ (zero-tolerance policy) ในที่ทำงาน ซึ่งรวมการคุกคามทางวาจา ทางร่างกาย และทางเพศ

3. สถาบันการเงินมีการจัดฝึกอบรมเรื่องอคติทางเพศและการเลือกปฏิบัติระหว่างเพศในสถานที่ทำงาน

4. สถาบันการเงินบริหารการจ่ายค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม (equal remuneration) แบบเชิงรุก

5. สถาบันการเงินมีระบบการป้องกันและบรรเทาการเลือกปฏิบัติทางเพศต่อลูกค้า

6. สถาบันการเงินรับประกันว่าผู้หญิงและผู้ชายจะสามารถเข้าถึงตำแหน่ง คณะกรรมการ คณะกรรมการบริหาร และผู้บริหารระดับสูง ได้อย่างเท่าเทียมกัน อย่างน้อยร้อยละ 30 ของตำแหน่งเหล่านี้

7. สถาบันการเงินรับประกันว่าผู้หญิงและผู้ชายจะสามารถเข้าถึงตำแหน่ง คณะกรรมการ คณะกรรมการบริหาร และผู้บริหารระดับสูง ได้อย่างเท่าเทียมกัน อย่างน้อยร้อยละ 40 ของตำแหน่งเหล่านี้

8. สถาบันการเงินมีโครงการพัฒนาศักยภาพในสายอาชีพสำหรับพนักงาน เพื่อส่งเสริมให้สตรีเข้าถึงตำแหน่งบริหารและกรรมการบริษัทอย่างเท่าเทียม

 

หัวข้อต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับความโปร่งใสและกลยุทธ์ของสถาบันการเงิน

9. สถาบันการเงินเปิดเผยร้อยละของการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของ หรือ ประชากรกลุ่มเปราะบางอื่น ๆ เทียบกับการสนับสนุนทางการเงินแก่ MSMEs ทั้งหมด

หัวข้อต่อไปใช้สำหรับบริษัทที่สถาบันการเงินลงทุนหรือให้การสนับสนุนทางการเงิน

10. บริษัทมีความทุ่มเทเชิงนโยบายที่บรรเทาความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนที่คนประสบ อันเป็นผลมาจากเพศสภาพของตนเอง

11. บริษัทมีนโยบายไม่ยอมรับการเลือกปฏิบัติทางเพศทุกรูปแบบ (zero-tolerance policy) ในกระบวนการจ้างงานและในการปฏิบัติงาน ที่ชัดเจนว่าคำนึงถึงความหลากหลายทางเพศ

12. บริษัทมีนโยบายไม่ยอมรับความรุนแรงทางเพศทุกรูปแบบ (zero-tolerance policy) ในที่ทำงาน ซึ่งรวมการคุกคามทางวาจา ทางร่างกาย และทางเพศ

13. บริษัทมีการจัดฝึกอบรมเรื่องอคติทางเพศและการเลือกปฏิบัติระหว่างเพศในสถานที่ทำงาน

14. บริษัทบริหารการจ่ายค่าตอบแทนอย่างเป็นธรรม (equal remuneration) แบบเชิงรุก

15. บริษัทมีระบบการป้องกันและบรรเทาการเลือกปฏิบัติทางเพศต่อลูกค้า

16. บริษัทรับประกันว่าผู้หญิงและผู้ชายจะสามารถเข้าถึงตำแหน่ง คณะกรรมการ คณะกรรมการบริหาร และผู้บริหารระดับสูง ได้อย่างเท่าเทียมกัน อย่างน้อยร้อยละ 30 ของตำแหน่งเหล่านี้

17. บริษัทรับประกันว่าผู้หญิงและผู้ชายจะสามารถเข้าถึงตำแหน่ง คณะกรรมการ คณะกรรมการบริหาร และผู้บริหารระดับสูง ได้อย่างเท่าเทียมกัน อย่างน้อยร้อยละ 40 ของตำแหน่งเหล่านี้

18. บริษัทมีโครงการพัฒนาศักยภาพในสายอาชีพสำหรับพนักงาน เพื่อส่งเสริมให้สตรีเข้าถึงตำแหน่งบริหารและกรรมการบริษัทอย่างเท่าเทียม

19. บริษัทบูรณาการหลักเกณฑ์ด้านความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิสตรีเข้าไปในนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและนโยบายปฏิบัติการของบริษัท

20. บริษัทใส่หลักเกณฑ์เกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศและสิทธิสตรีเป็นเงื่อนไขในสัญญาที่ลงนามกับผู้รับเหมาช่วงและคู่ค้า