แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย

ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2561 สมาชิกประกอบด้วยบริษัทวิจัย 1 บริษัท และองค์กรภาคประชาสังคม 4 องค์กร ที่มีความสนใจร่วมกันในการติดตามผลกระทบและความท้าทายของธุรกิจธนาคาร และประสงค์จะร่วมกันผลักดันภาคธนาคารไทยให้ก้าวสู่แนวคิดและวิถีปฏิบัติของ “การธนาคารที่ยั่งยืน” (sustainable banking) อย่างแท้จริง ผ่านการนำมาตรฐาน Fair Finance Guide International (แนวปฏิบัติของแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ เว็บไซต์ www.fairfinanceguide.org) มาใช้ในการประเมินนโยบายด้านต่าง ๆ ของธนาคารพาณิชย์ไทยที่เปิดเผยสู่สาธารณะ เริ่มจากปี พ.ศ. 2562 เป็นปีแรก


 

ผลการประเมินธนาคารตามแนวปฏิบัติของแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ ประจำปี พ.ศ. 2567

ผลการประเมินธนาคารไทย 11 แห่ง ตามเกณฑ์ Fair Finance Guide International 13 หมวด ประจำปี พ.ศ. 2567 พบว่าคะแนนเฉลี่ยของธนาคารทั้ง 11 แห่ง ลดลงเล็กน้อยจาก 32.92 คะแนนในปี พ.ศ. 2566 เป็น 35.76 คะแนนในปี พ.ศ. 2567 โดยธนาคารที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธนาคารทหารไทยธนชาต (42.96%) ธนาคารไทยพาณิชย์ (38.65%) ธนาคารกสิกรไทย (37.25%) ธนาคารกรุงเทพ (30.63%) และธนาคารกรุงไทย (29.57%) โดยธนาคารไทยพาณิชย์ขยับจากอันดับที่ 4 มาเป็นอันดับที่ 2 แทนที่ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงเทพขยับจากอันดับที่ 5 มาเป็นอันดับที่ 4 แทนที่ธนาคารกรุงไทย

ผลการประเมิน
บทความล่าสุด
1
ความเห็นต่อ "(ร่าง) มาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 2"

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand, “แนวร่วมฯ ”) และองค์กรที่ร่วมลงนาม ตามรายชื่อแนบท้าย (“แนวร่วมฯ”) มีข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่าง Thailand Taxonomy ระยะที่ 2

อ่านต่อได้ที่นี่
2
รายงานการประเมินธนาคารไทยตามเกณฑ์ "แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ" ปีที่ 7

ในปี พ.ศ. 2567 คณะวิจัยในโครงการ Fair Finance Thailand (แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย เว็บไซต์ www.fairfinancethailand.org, “แนวร่วมฯ”) จัดทำการประเมินนโยบายด้านต่าง ๆ ของสถาบันการเงินไทย 11 แห่ง ประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย 8 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 3 แห่ง ที่เปิดเผยสู่สาธารณะ นับเป็นปีที่ 7 ที่มีการนำมาตรฐาน Fair Finance Guide International (แนวปฏิบัติของแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ เว็บไซต์ www.fairfinanceguide.org) มาใช้ในประเทศไทย ตามเกณฑ์ Fair Finance Guide International ฉบับปี ค.ศ. 2023

อ่านต่อได้ที่นี่
3
แถลงการณ์ข้อเรียกร้องต่อสถาบันการเงินไทย 5 แห่งที่ปรากฏชื่อในรายงานของผู้รายงานพิเศษสหประชาชาติ กรณีธุรกรรมเชื่อมโยงกองทัพพม่า

สืบเนื่องจากรายงาน Banking on the Death Trade: How Banks and Governments Enable the Military Junta in Myanmar โดยผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา ซึ่งระบุว่าธนาคารไทยกลายเป็นผู้ให้บริการทางการเงินหลักในการจัดซื้อจัดจ้างอาวุธและวัสดุที่เกี่ยวข้องกับกองทัพพม่า

อ่านต่อได้ที่นี่
4
รายงานการประเมินธนาคารไทยตามเกณฑ์ "แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ" ปีที่ 6

ในปี พ.ศ. 2566 คณะวิจัยในโครงการ Fair Finance Thailand (แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย เว็บไซต์ www.fairfinancethailand.org, “แนวร่วมฯ”) จัดทำการประเมินนโยบายด้านต่าง ๆ ของสถาบันการเงินไทย 11 แห่ง ประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย 8 แห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 3 แห่ง ที่เปิดเผยสู่สาธารณะ นับเป็นปีที่หกที่มีการนำมาตรฐาน Fair Finance Guide International (แนวปฏิบัติของแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมนานาชาติ เว็บไซต์ www.fairfinanceguide.org) มาใช้ในประเทศไทย ตามเกณฑ์ Fair Finance Guide International ฉบับปี ค.ศ. 2023 

อ่านต่อได้ที่นี่
5
ความเห็นต่อ "มาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1 (Thailand Taxonomy Phase)"

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา แนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand, “แนวร่วมฯ ”) ได้นำส่งข้อคิดเห็น ต่อเอกสาร "ร่างมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม หรือ Thailand Taxonomy ระยะที่ 1

อ่านต่อได้ที่นี่

 

งานศึกษาวิจัยล่าสุด
1
ธนาคารไทยปรับตัวรับโลกรวนอย่างไร กรณีศึกษาเปรียบเทียบ: การเปิดเผยข้อมูลของธนาคารไทย ตามข้อเสนอแนะของ TCFD ปี 2567

ในยุคที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกจำเป็นต้องเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับภาวะโลกรวน (climate change) ซึ่งทวีความรุนแรงและเร่งด่วนอย่างต่อเนื่อง สถาบันการเงินในฐานะผู้จัดสรรเงินทุนหลักให้กับภาคธุรกิจมีบทบาทที่ขาดไม่ได้ ผ่านการเน้นการสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ลดการสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจคาร์บอนสูง และสนับสนุนให้ลูกค้าธุรกิจเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตแบบคาร์บอนต่ำ ยังไม่นับว่าสถาบันการเงินเองก็เผชิญความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพภูมิอากาศไม่ต่างจากองค์กรอื่นๆ

อ่านต่อได้ที่นี่
2
แนวทางการจัดกลุ่มกิจกรรมเศรษฐกิจเขียวตามนิยามเดียวกัน เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่ยุติธรรม

แนวคิด “just energy transition” หรือ “การเปลี่ยนผ่านพลังงานที่ยุติธรรม” กำลังถูกนำเสนอเป็นกรอบคิดในการออกแบบและจัดการการเปลี่ยนผ่านพลังงานในแต่ละประเทศ ซึ่งหลักการดังกล่าวควรนำมาใช้ในการพัฒนาและปรับปรุง การจัดกลุ่มกิจกรรมสีเขียวตามนิยามเดียวกัน หรือ Thailand Taxonomy ที่ครอบคลุมกิจกรรมในภาคพลังงานและขนส่ง เพื่อให้ Thailand Taxonomy เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงานที่ยุติธรรมในประเทศไทย

อ่านต่อได้ที่นี่
3
ผู้ประกอบการฟินเทคหน้าใหม่กับการขยายการเข้าถึงบริการทางการเงินในไทย: โอกาสและความท้าทาย

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบัน ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วโลกที่มีแนวโน้มจะทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการ ‘ฟินเทค’ (FinTech) ถูกคาดหวังจากหลายภาคส่วนว่าจะสามารถขยายการให้บริการทางการเงิน (financial inclusion) ไปยังกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงการเงินในระบบ อย่างไรก็ตามในความเป็นจริง ผู้ประกอบการฟินเทคในไทยยังต้องเผชิญกับความท้าทายอยู่หลายประการด้วยกัน

อ่านต่อได้ที่นี่
4
หลักการ "การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบ" สู่การปฏิบัติ: กรณีโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำเขื่อนหลวงพระบาง

"โครงการเขื่อนหลวงพระบางบนแม่น้ำโขงสายประธาน" กำลังการผลิต 1460 เมกะวัตต์ เป็นหนึ่งในสี่เขื่อนที่ กฟผ. ของไทยจะทำสัญญาซื้อไฟฟ้า โดยมีผู้พัฒนาโครงการคือ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ ร่วมกับบริษัท ปิโตรเวียดนาม และอาจมีธนาคารของไทยร่วมเป็นผู้ให้เงินกู้ยืมในการลงทุนครั้งนี้ ที่ตั้งของเขื่อนอยู่เหนือเมืองหลวงพระบางขึ้นไปราว 25 กิโลเมตร ท่ามกลางความกังวลถึงผลกระทบต่อเมืองหลวงพระบาง เมืองมรดกโลก (World Heritage Site) ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ความจำเป็นด้านพลังงานของไทยและความเสี่ยงอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น

อ่านต่อได้ที่นี่