ผลการประเมินหมวดสุขภาพปี พ.ศ. 2567 พบว่า ภาพรวมคะแนนในหมวดนี้เพิ่มขึ้นจาก 0.55 คะแนน ในปี พ.ศ. 2566 เป็น 0.72 คะแนน ในปี พ.ศ. 2567 (เพิ่มขึ้น 0.17 คะแนน) ซึ่งเป็นผลมาจากการได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นของธนาคาร 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร และธนาคารกสิกรไทย โดยธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นจากการรับหลักการ Equator Principles ซึ่งต้องปฏิบัติตาม IFC Performance Standards และ IFC Environmental, Health, and Safety Guidelines โดยการรับหลักการดังกล่าวส่งผลให้ธนาคารไทยพาณิชย์ได้รับคะแนนเพิ่มขึ้นในหลายข้อ เช่น การกำหนดให้ลูกค้าของธนาคารเคารพในข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการผลิตและใช้สารพิษและสารอันตรายตามที่ระบุใน Montreal Protocol (สารที่ทำให้ ชั้นโอโซนเป็นรู) ข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการผลิตและใช้สารพิษและสารอันตรายตามที่ระบุใน Stockholm Convention (ว่าด้วย Persistent Organic Pollutants - POPs) ข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าสารเคมีและของเสียเคมี ตามข้อตกลง Basel Convention และข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าสารเคมีและของเสียเคมี ตามข้อตกลง Rotterdam Convention (ข้อ 4-7)
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (ได้คะแนนในหมวดสุขภาพเป็นปีแรก) และธนาคารกสิกรไทย ได้คะแนนเพิ่มขึ้นจาก การมีรายการสินเชื่อที่ธนาคารไม่ประสงค์ให้กู้หรือให้การสนับสนุนทางการเงิน (Exclusion List) ในกิจกรรมการผลิตหรือการค้ายาสูบ (ข้อ 14) อย่างไรก็ตาม ผลการประเมินของธนาคารกรุงไทยลดลง เนื่องจากไม่พบนโยบายรายการสินเชื่อที่ธนาคารไม่ประสงค์ให้กู้หรือให้การสนับสนุนทางการเงิน (Exclusion List) ของธนาคารที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดให้ลูกค้าของธนาคารป้องกันไม่ให้สุขภาพของลูกจ้าง ลูกค้า และชุมชนใกล้เคียงถูกลิดรอนโดยผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการผลิตของบริษัท (ตามหลักความรอบคอบ - precautionary principle) (ข้อ 1) และการกำหนดให้ลูกค้าของธนาคารต้องเคารพในข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการผลิตและใช้สารพิษและสารอันตรายตามที่ระบุใน Stockholm Convention (ข้อ 5) รวมถึงข้อตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าสารเคมีและของเสียเคมี ตามข้อตกลง Rotterdam Convention (ข้อ 7) (ธนาคารเคยได้คะแนนในปีก่อน แต่ไม่ได้คะแนนในปีนี้)