ในปี พ.ศ 2567 พบว่าธนาคารส่วนใหญ่ 7 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารออมสิน และธนาคารเกียรตินาคินภัทร มีคะแนนรวมเพิ่มขึ้น
ธนาคารที่ได้คะแนนเพิ่มขึ้นสูงสุด 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย โดยพบว่าธนาคารทั้ง 3 แห่ง มีประกาศนโยบายที่กำหนดให้ลูกค้าของธนาคารต้องให้ความสำคัญกับการดำเนินการด้านสิทธิแรงงานที่ครอบคลุมในประเด็นแรงงานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นกว่าเมื่อเทียบกับการประเมินในปีก่อน รวมถึงการรับหลักการสากลมาเป็นแนวปฏิบัติ ดังนี้
- ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้คะแนนเพิ่มในหมวดสิทธิแรงงานจากการประกาศนโยบายแนวทางการให้สินเชื่อและบริการทางการเงินอย่างยั่งยืน (Sustainable Finance & Advisory Statement) โดยกำหนดรายการสินเชื่อต้องห้าม (Exclusion List) ที่ระบุว่าจะไม่ให้สินเชื่อแก่ธุรกิจที่มีการแสวงหาประโยชน์จากการใช้แรงงานบังคับหรือแรงงานเด็ก (ข้อ 6 และ 7) นอกจากนี้ การเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมอีเควเตอร์ ส่งผลให้ธนาคารต้องปฏิบัติตามแนวปฏิบัติของบริษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) ในด้านมาตรฐานการดำเนินงานด้านความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม (PS) และแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัย (Environmental, Health, and Safety - EHS) ซึ่งระบุถึงการกำหนด แนวปฏิบัติของธนาคารต่อลูกค้า อาทิ การกำหนดให้ลูกค้ามีนโยบายสุขภาพและความปลอดภัย (ข้อ 12) ลูกค้าประกันการได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมของแรงงานข้ามชาติและแรงงานนอกระบบ และการมีสภาพการทำงานที่เท่าเทียมกับลูกจ้างคนอื่น ๆ (ข้อ 14) ลูกค้ามีระบบการบริหารจัดการที่ชัดเจนในการติดตาม การปฏิบัติตามมาตรฐานแรงงานตามกฎหมายแรงงาน (ข้อ 16) จัดตั้งกระบวนการรับและจัดการกับเรื่องร้องเรียนจากพนักงาน (ข้อ 17) และการกำหนดให้ลูกค้าบูรณาการหลักเกณฑ์ด้านสิทธิแรงงานเข้าไปในนโยบายการจัดซื้อจัดจ้างและนโยบายปฏิบัติการของบริษัท (ข้อ 18) จึงทำให้ได้คะแนนพื้นฐานและคะแนนในขอบเขตสินเชื่อโครงการในข้อเหล่านี้ด้วย
- ธนาคารกรุงไทย ได้คะแนนเพิ่มจากการประกาศนโยบายการว่าจ้างที่สอดคล้องกับคำประกาศของ ILO ว่าด้วยหลักการและสิทธิขั้นพื้นฐานในที่ทำงาน (ILO Declaration on Fundamental Principles and Rights at Work) (ข้อ 1) และมีการเปิดเผยขั้นตอนชัดเจนในการจัดการกับข้อร้องเรียนของพนักงานและแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิแรงงาน (ข้อ 4) รวมถึงการประกาศเข้าร่วมรับหลักการข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UNGC) ส่งผลให้ธนาคารได้คะแนนเพิ่มขึ้น (คะแนนพื้นฐาน) ในเกณฑ์การประเมิน ข้อ 5 และ 8
- ธนาคารกสิกรไทย ได้คะแนนเพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคลให้ครอบคลุมใจความสำคัญในอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองความเป็นมารดา (Maternity Protection Convention) ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) (ข้อ 3) และเปิดเผยนโยบายด้านการลงทุนของธนาคารเพิ่มเติม โดยมีการพิจารณาประเด็นด้านสิทธิแรงงานซึ่งคาดหวังให้ธุรกิจที่ธนาคารจะเข้าไปลงทุนแสดงความรับผิดชอบของธุรกิจในด้านสิทธิแรงงาน อาทิ การรับรองสิทธิในการรวมกลุ่มและตระหนักอย่างมีประสิทธิผลในสิทธิในการรวมกลุ่มต่อรอง การไม่ยอมรับการใช้แรงงานบังคับทุกรูปแบบ ไม่ยอมรับการใช้แรงงานเด็ก และไม่ยอมรับการเลือกปฏิบัติในการจ้างงานและในที่ทำงาน (ข้อ 5-8) รวมไปถึงการมีระบบการบริหารจัดการที่ชัดเจนในการติดตามการปฏิบัติตามมาตรฐานแรงงานตามกฎหมายแรงงาน (ข้อ 16)