ผลการประเมินหมวดการคุ้มครองผู้บริโภค

ผลการประเมินในปี พ.ศ. 2567 พบว่า หมวดการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหมวดที่คะแนนเฉลี่ยรวมของทุกธนาคารสูงสุด โดยธนาคารทุกแห่งได้รับคะแนนในหมวดการคุ้มครองผู้บริโภค ปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากการปฏิบัติตามเกณฑ์การให้บริการอย่างเป็นธรรม (market conduct) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม โดยมีการประกาศมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 ด้วยเหตุนี้ธนาคารส่วนใหญ่จึงมีการประกาศนโยบาย และมาตรการคุ้มครองผู้บริโภครายย่อยที่คล้ายคลึงกัน และส่งผลให้ธนาคารส่วนใหญ่ได้รับคะแนนในข้อเดียวกัน อาทิ ธนาคารทุกแห่งมีการประกาศนโยบายเปิดเผยสิทธิของลูกค้ารายย่อย และความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์และบริการ (ข้อ 1) ธนาคารทุกแห่งมีการประกาศนโยบายในการจัดการข้อร้องเรียนของลูกค้าอย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่ช่องทางการร้องเรียน ระบบการดำเนินการข้อร้องเรียน ระยะเวลาการดำเนินการจัดการข้อร้องเรียน รวมไปถึงการรายงานผลและจัดให้มีการเยียวยาลูกค้า (ข้อ 3) ธนาคารทุกแห่งมีการประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ารายย่อย โดยจะไม่เปิดเผยต่อบุคคลอื่นเว้นแต่ได้รับอนุญาตจากลูกค้า (ข้อ 10) ธนาคารทุกแห่งมีการรับประกันได้ว่าจะไม่มีข้อจำกัดใด ๆ ด้านเทคโนโลยีสื่อสาร และสารสนเทศ (ICT) ที่จะมากีดกันไม่ให้ลูกค้ารายย่อยเข้าถึงบริการทางการเงิน (ข้อ 18)

นอกจากนี้ พบว่าธนาคาร 5 ได้คะแนนเพิ่มขึ้นในปีนี้ ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารทหารไทยธนชาต เนื่องจากการปรับปรุงและเปิดเผยนโยบายที่มีจุดประสงค์เพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ดังนี้

  • ธนาคารทหารไทยธนชาตเป็นธนาคารเพียงแห่งเดียวที่ประกาศเป้าหมายว่าจะลดจำนวนเรื่องร้องเรียน  ทำให้ได้คะแนนในข้อ 5 เป็นปีแรก ขณะที่ธนาคารกสิกรไทยได้คะแนนอยู่แล้ว โดยได้คะแนนบางส่วน จากการประกาศว่าจะรักษาจำนวนเรื่องร้องเรียนไม่ให้เกินเป้าหมายที่กำหนด
  • ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยนโยบายปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้บริโภคที่ประสบปัญหาเป็นหนี้เกินตัวเป็นปีแรกในปีนี้จึงได้คะแนนเพิ่มขึ้นในเกณฑ์การประเมินข้อ 7
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้คะแนนบางส่วนประกาศนโยบายบริหารจัดการด้านการให้บริการแก่ลูกค้าอย่างเป็นธรรม (market conduct) และประกาศว่าธนาคารจะสื่อสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของตนอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส (ข้อ 8)
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย ได้คะแนนเพิ่มขึ้นจากการประกาศว่าจะแจ้งลูกค้าอย่างทันท่วงทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียม (ข้อ 14)


หมวดคุ้มครองผู้บริโภคประเมินตามเกณฑ์ประกอบด้วย 19 ข้อดังต่อไปนี้

หัวข้อต่อไปนี้ใช้ประเมินนโยบายของสถาบันการเงินที่สัมพันธ์กับลูกค้ารายย่อย

1. สถาบันการเงินมีนโยบายเปิดเผยสิทธิของลูกค้ารายย่อย และความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์และบริการ

2. สถาบันการเงินมีนโยบายอบรมจรรยาบรรณของพนักงานและกำกับให้พนักงานให้บริการต่อลูกค้าโดยไม่เลือกปฏิบัติ

3. สถาบันการเงินสร้างหลักประกันว่าลูกค้ารายย่อยเข้าถึงกลไกรับเรื่องร้องเรียนและเยียวยาที่มีกระบวนการค้นหาความจริง (due diligence)

4. สถาบันการเงินเปิดเผยผลการติดตามสถิติการร้องเรียนของลูกค้ารายย่อย อาทิ จำนวนเรื่องร้องเรียน ประเด็นร้องเรียนหลัก องค์กรที่ลูกค้าติดต่อร้องเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม แบ่งตามช่องทางที่รับเรื่องร้องเรียน (เช่น ทางโทรศัพท์ เว็บไซต์ สาขา ฯลฯ)

5. สถาบันการเงินประกาศต่อสาธารณะว่าจะลดจำนวนเรื่องร้องเรียน กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน และเปิดให้ข้อมูลนี้เข้าถึงได้โดยผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย

6. สถาบันการเงินมีกลไกจัดการข้อพิพาททางเลือก (Alternative Dispute Resolution (ADR) Mechanisms) - กระบวนการเยียวยาอิสระสำหรับการจัดการกับข้อร้องเรียนที่ไม่อาจคลี่คลายได้ด้วยกระบวนการภายในของสถาบันการเงิน หรือตัวแทนที่ได้รับมอบหมายจากสถาบันการเงิน

7. สถาบันการเงินมีนโยบายปรับโครงสร้างหนี้สำหรับผู้บริโภคที่ประสบปัญหาเป็นหนี้เกินตัว

8. สถาบันการเงินประกาศว่าจะสื่อสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของตนอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส ด้วยภาษาที่เข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย และคำนึงถึงผู้พิการและกลุ่มเปราะบาง

9. สถาบันการเงินพัฒนาและลงมือใช้บัญชีความเสี่ยงสำหรับลูกค้า (risk profile) ในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุน

10. สถาบันการเงินคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้ารายย่อย (ไม่เปิดเผยต่อบุคคลอื่นเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากลูกค้า)

11. ข้อมูลทางการเงินและข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม ด้วยกลไกควบคุมและคุ้มครอง มีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนและเผยแพร่ต่อสาธารณะว่าสถาบันการเงินจะจัดเก็บ ประมวลผล บันทึก ใช้ และเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อย่างไรบ้าง

12. สถาบันการเงินตีพิมพ์เผยแพร่นโยบายหรือขั้นตอนการติดตามหนี้ และบริษัทที่ได้รับมอบหมายจากสถาบันการเงิน (บุคคลที่สาม) ให้เป็นตัวแทนในการทวงหนี้

13. สถาบันการเงินมีนโยบายและขั้นตอนที่จะหลีกเลี่ยงการพ่วงขายผลิตภัณฑ์ หรือพฤติกรรมการขายที่ไม่เหมาะสม

14. สถาบันการเงินประกาศว่าจะแจ้งลูกค้าอย่างทันท่วงทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียม

15. สถาบันการเงินออกแบบโครงสร้างค่าตอบแทนสำหรับพนักงานและตัวแทน ในทางที่ส่งเสริมพฤติกรรมการทำธุรกิจอย่างรับผิดชอบ การปฏิบัติต่อลูกค้าอย่างเป็นธรรม และการหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อน

16. สถาบันการเงินมีโครงการอบรมพนักงานและตัวแทนอย่างเหมาะสม ในประเด็นสิทธิผู้บริโภค นโยบายคุ้มครองผู้บริโภค และธรรมเนียมปฏิบัติด้านนี้

17. สถาบันการเงินมีโครงการอบรมพนักงานและตัวแทนอย่างเหมาะสม ในประเด็นผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ที่นำเสนอต่อผู้บริโภค

18. สถาบันการเงินรับประกันได้ว่าไม่มีข้อจำกัดใดๆ ด้านเทคโนโลยีสื่อสารและสารสนเทศ (ICT) ที่จะกีดกันไม่ให้ลูกค้ารายย่อยเข้าถึงบริการทางการเงิน

19. สถาบันการเงินมีนโยบายที่จะเปิดให้ลูกค้ารายย่อยที่เป็นผู้พิการหรือมีความต้องการพิเศษสามารถเข้าถึงสาขาทางกายภาพและบริการอิเล็กทรอนิกส์ อย่างเช่นแพลตฟอร์มออนไลน์ได้

หัวข้อต่อไปใช้สำหรับบริษัทที่สถาบันการเงินลงทุนหรือให้การสนับสนุนทางการเงิน

-